การค้นหาขั้นสูง

หมวดหมู่
ทำไมองค์กรต้องมียุทธศาสตร์
ทำไมองค์กรต้องมียุทธศาสตร์
ท่านเคยสงสัยไหมคะว่า ทำไมองค์กรของเราถึงต้องมียุทธศาสตร์ แม้ว่าประเทศไทยจะกำหนดให้องค์กรต่าง ๆ ใช้คำว่า “แผนปฏิบัติการด้าน.......ระยะที่..(พ.ศ...-...)” แทนใช้คำว่ายุทธศาสตร์ นับตั้งแต่วันที่ 4 ธันวาคม 2560 เป็นต้นไป ยกเว้นแต่ที่ได้มีการระบุไว้ก่อน หากกล่าวถึงอดีตจนถึงปัจจุบันเป้าหมายที่สำคัญของรัฐบาลไทย คือ การบริการและอำนวยความสะดวกให้ประชาชนด้วยความถูกต้องเป็นธรรมเพื่อให้ประชาชนพึงพอใจ ดังนั้นการมียุทธศาสตร์องค์กร เปรียบเสมือนการมีเข็มทิศขององค์กรแสดงทิศทางที่ชัดเจนว่าองค์การของเรานั้นอยู่ที่ไหนในขณะนี้ พันธกิจของเราคืออะไร พันธกิจของเราควรจะเป็นอะไร ใครเป็นผู้รับบริการของเรา และผลของการบริการเป็นอย่างไรซึ่งหลักการวิธีคิดคือการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน วิธีตัดสินใจคือการกระจายอำนาจการตัดสินใจของส่วนราชการ วิธีปฏิบัติให้แผนงานขององค์กรบรรลุเป้าหมายตามวิสัยทัศน์ พันธกิจ สำหรับผู้บริหารแล้วก่อนจะดำเนินการตามภารกิจใด ส่วนราชการต้องจัดทำแผนปฏิบัติราชการไว้เป็นการล่วงหน้าและกำหนดแผนปฏิบัติราชการของส่วนราชการตามโดยต้องมีรายละเอียดตามขั้นตอน ระยะเวลาและงบประมาณที่จะต้องใช้ในการดำเนินการของแต่ละขั้นตอนเป้าหมายของภารกิจ ผลสัมฤทธิ์ของภารกิจและตัวชี้วัดของความสำเร็จของภารกิจ...” อันแสดงถึงการบริหารยุทธศาสตร์ที่โปร่งใสของผู้บริหาร มีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดีหรือ ธรรมาภิบาล (Good Governance) เป็นไปตามยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบราชการไทยในอดีต และยุทธศาสตร์ชาติในปัจจุบัน บทสรุปการมียุทธศาสตร์เป็นเครื่องมือขององค์กรทำให้องค์กรมีทิศทาง มีแนวทางปฏิบัติที่ดีตอบสนองความต้องการของประชาชนผู้รับบริการโดยให้ประชาชนเป้าหมายมีส่วนร่วมคิดร่วมปฏิบัติ ร่วมแก้ไขปรับปรุงพัฒนา และร่วมติดตามประเมินผลที่ชัดเจน ทำให้เป็นองค์การที่มีขีดสมรรถนะสูงตามแนวคิดการพัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ นั่นเอง ดังนั้นไม่ว่าจะใช้คำว่า “ยุทธศาสตร์” หรือ คำว่า “แผนปฏิบัติการ” ทั้งสองคำมีเป้าหมายเหมือนกัน คือ การเป็นเครื่องมือนำองค์กรไปสู่อนาคต ........ ยุทธศาสตร์ในองค์กร จึงเป็นเครื่องมือที่ทำให้องค์กรมีขีดความสามารถในการแข่งขันและไปสู่อนาคตอย่างยั่งยืน
15 ต.ค. 2563
กสอ. ประเมินความคุ้มค่าภารกิจ พร้อมเตรียมกำลังพลเดินหน้าทำงานปี 64
กสอ. ประเมินความคุ้มค่าภารกิจ พร้อมเตรียมกำลังพลเดินหน้าทำงานปี 64
วันที่ 14 ตุลาคม 2563 - นายณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ให้เกียรติเป็นประธานเปิดการประชุมสรุปผลประเมินความคุ้มค่าการดำเนินงานโครงการและกิจกรรมของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) ร่วมด้วย ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ กสอ. ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค และทีมที่ปรึกษา บริษัท ทริส คอร์ปอเรชั่น จำกัด เข้าร่วม ณ ห้อง Royal Maneeya A (M Floor) โรงแรมเรเนซองส์ ราชประสงค์ การประชุมดังกล่าว จัดขึ้นเพื่อชี้แจงผลการดำเนินงานให้ผู้บริหารและผู้ที่เกี่ยวข้องได้รับทราบ และนำไปปรับปรุงการดำเนินงานต่อไป ให้สอดคล้องกับภารกิจของงาน ตลอดจนสอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์และผลผลิตตามวัตถุประสงค์ของโครงการอย่างมีประสิทธิภาพ เกิดประโยชน์ที่สมดุลกับทรัพยากรที่ใช้อย่างคุ้มค่าต่อไป ขอบคุณข้อมูลจาก : PR.DIProm (กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม)
14 ต.ค. 2563
ประชุมคณะจัดทำและทบทวนแผนปฏิบัติราชการ กสอ.
ประชุมคณะจัดทำและทบทวนแผนปฏิบัติราชการ กสอ.
วันอังคารที่ 22 กันยายน 2563 กองยุทธศาสตร์และแผนงาน จัดการประชุมคณะจัดทำและทบทวนแผนปฏิบัติราชการ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ครั้งที่ 1/2563 โดยนายณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ให้เกียรติเป็นประธานการประชุมฯ โดยการประชุมครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อกำหนดแนวทางการจัดทำและทบทวนแผนปฏิบัติราชการ กสอ. และศึกษา วิเคราะห์ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมอุตสาหรรมและวิสาหกิจทุกระดับ ณ ห้องประชุมโซนบี ชั้น 6 อาคาร กสอ.
22 ก.ย. 2563
999 บาท ก็เล่นหุ้นได้
999 บาท ก็เล่นหุ้นได้
ว่าด้วยเรื่อง หุ้น หุ้น สำหรับคนที่เริ่มสนใจการลงทุนในหุ้นแต่ไม่อยากลงทุนเยอะ ลองเริ่มต้นจากเงินไม่ถึงหนึ่งพันบาท กันปัจจุบันด้วยจำนวนโบรกเกอร์ที่มากขึ้น ส่งผลให้การแข่งขันของโบรกเกอร์สูง ทำให้บางโบรกเกอร์ใช้ Statement เป็นเพียงหลักฐานประกอบเท่านั้น และไม่ได้กำหนดจำนวนเงินขั้นต่ำ หรือบางโบรกเกอร์ ใช้แค่หลักฐานหน้าสมุดบัญชีธนาคาร (Bookbank) ก็เพียงพอแล้วที่จะสามารถ ทำให้การเปิดบัญชีซื้อขายหุ้นใช้เงินและสะดวกมากขึ้นกว่าสมัยก่อน โดยการเริ่มต้นมีขั้นตอนและหลักการ ดังนี้ ขั้นตอนการเปิดบัญชีซื้อขายหุ้น 1. สมัครเปิดบัญชีออนไลน์ในเว็บของโบรกเกอร์ที่สนใ0 2. ส่งหลักฐานการเงินต่าง ๆ ให้ทางโบรกเกอร์ตรวจสอบ 3. เมื่อตรวจสอบสำเร็จจะได้รหัสผ่านสำหรับเข้าไปซื้อขายหุ้นในเว็บหรือแอปพลิเคชันของทางโบรกเกอร์ เมื่อได้บัญชีซื้อขายหุ้นแล้ว หลังจากที่ทางโบรกเกอร์ตรวจสอบหลักฐานต่าง ๆ สำเร็จแล้ว ก็มาถึงขั้นตอนสำคัญนั่นคือ “การซื้อหุ้นตัวแรก” นั่นเอง มีคำแนะนำสำหรับหุ้นตัวแรกที่ควรจะซื้อเข้าพอร์ต ดังนี้ 1. ควรซื้อหุ้นที่มีราคาต่ำกว่า 10 บาท เนื่องจากการซื้อขายหุ้น ทางตลาดหลักทรัพย์จะบังคับให้ซื้อทีละ 100 หุ้น ดังนั้นถ้าเราซื้อหุ้น ABC (ชื่อสมมติ) ราคา 5 บาท เราต้องซื้อจำนวน 100 หุ้น เราก็จะเสียเงินทั้งหมด 500 บาท ซึ่งการซื้อหุ้นครั้งแรกมักจะขาดทุนอยู่แล้วเพราะเราไม่มีความรู้ แต่เราจะเข้าใจการทำงานของตลาดหุ้นมากขึ้น 2. การหาหุ้นตัวแรก ในการหาหุ้นตัวแรกที่จะซื้อนั้น อยากให้ลองหาจากรายชื่อใน SET50 (หุ้น 50 ตัวแรกที่มีมูลค่าเยอะที่สุดในตลาดหลักทรัพย์ของประเทศไทย) เพื่อนั่งดูว่าธุรกิจหรือกิจการของหุ้นตัวนั้นทำอะไร เราเคยใช้บริการหรือซื้อสินค้าของเขาแล้วเราอยากจะเป็นเจ้าของหรือไม่ กิจการมีแนวโน้มจะเติบโตในอนาคตได้หรือไม่ รายได้และกำไรเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องหรือไม่ 3. ควรซื้อหุ้นที่เรารู้จัก นอกจากเรื่องราคาแล้วเราก็ควรซื้อหุ้นที่เรารู้จัก แม้จะดูงบการเงินของหุ้นตัวนั้นไม่เป็นเลยก็ตาม หุ้น คือ กิจการธุรกิจอย่างหนึ่งไม่ใช่ตัวเลขวิ่งไปวิ่งมาเฉย ๆ ให้เราคิดว่าเรากำลังจะซื้อกิจการนั้น ๆ เราอยากซื้อกิจการที่ได้กำไรทุกปีหรืออยากได้กิจการที่ขาดทุนทุกปี (ในตลาดหุ้นมีแบบนี้เยอะ) วิธีที่ง่ายที่สุดคือไปหาว่าเราสนใจธุรกิจใด แล้วธุรกิจนั้นมีในตลาดหุ้นหรือไม่ นอกจากนั้นก็ดูว่าลูกค้าเยอะหรือไม่ ไปลองใช้บริการดูว่าพนักงานบริการดีไหม คิดเหมือนว่าเราจะซื้อกิจการนั้นเลย 4. หุ้นในพอร์ต สำหรับมือใหม่แนะนำว่าควรถือหุ้นแค่ประมาณ 3 – 5 ตัวในพอร์ต เพื่อให้ง่ายต่อการติดตามข่าวสาร ถ้ามีเยอะเกินไปจะดูแลไม่ทั่วถึง และถ้ามีหุ้นน้อยเกินไปก็จะเหมือนใส่ไข่ไว้ในตะกร้าใบเดียว ซึ่งอาจจะมีความเสี่ยงสูงเกินไปจึงควรกระจายการลงทุนออกมา เราก็จะได้เห็นว่าราคามันขึ้น ๆ ลง ๆ ทุกวัน ซึ่งเราอาจจะตื่นเต้นทุกครั้งที่หุ้นในพอร์ตกำไร หรือปวดใจทุกรอบที่เห็นราคาที่เคยซื้อต่ำลง แต่นี่แหละคือธรรมชาติของหุ้น ในระยะสั้นราคาอาจจะมีขึ้นมีลง ไม่สามารถคาดเดาได้ แต่ในระยะยาวถ้าคุณซื้อบริษัทที่ดี ราคาของหุ้นจะเพิ่มขึ้นเองตามผลประกอบการ การที่หุ้นตัวแรกของเราจะกำไรหรือขาดทุนไม่ได้บ่งบอกว่าเราเป็นนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จหรือล้มเหลว แต่หุ้นตัวแรกนี้คือ “ค่าเล่าเรียน” เพื่อดูว่าเราจะอยู่กับตลาดหุ้นได้หรือไม่ แต่หุ้นตัวต่อไปต้องใช้ความรู้และประสบการณ์ในการเลือกมากขึ้นเพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไร ไม่ควรมาเลือกมั่ว ๆ แบบหุ้นตัวแรก ๆ สิ่งที่ผมต้องการจะสื่อในวันนี้ก็เพียงต้องการจะบอกว่าแค่มีแบงค์พันใบเดียวก็เล่นหุ้นได้แล้ว ซึ่งผมไม่ได้พูดขึ้นลอยแต่เกิดจากการศึกษาและหาความรู้ ใช่แล้วครับ! หนึ่งในแหล่งความรู้ของผมก็คือ SET นั่นเอง ถ้าคุณอยากศึกษาหาอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับหุ้นก็กดลิ้งก์ด้านล่างเลยครับ ขอให้โชคดีในการเล่นหุ้นนะครับ ที่มา https://stockradars.news , https://www.set.or.th
17 ก.ย. 2563
กสอ. จัดระดมความคิดเห็นภายในองค์กร พร้อมปูแนวทางปรับบทบาทหน่วยงานในอนาคต
กสอ. จัดระดมความคิดเห็นภายในองค์กร พร้อมปูแนวทางปรับบทบาทหน่วยงานในอนาคต
วันพุธที่ 16 กันยายน 2563 นายภาสกร ชัยรัตน์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ให้เกียรติเป็นประธานการประชุมระดมความคิดเห็นภายในหน่วยงาน เพื่อนำไปสู่การวิเคราะห์จัดทำเป็นข้อเสนอแนวทางการปรับบทบาทภารกิจให้สอดคล้องกับทิศทางในอนาคต ร่วมด้วย ผู้อำนวยการกองยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบราชการ สำนักงาน ก.พ.ร. คณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) โดยมี นางสุชาดา โพธิ์เจริญ ผู้อำนวยการกองยุทธศาสตร์และแผนงาน กล่าวรายงาน ณ ห้องประชุมชั้น 6 โซนเอ อาคาร กสอ. การประชุมครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อระดมความคิดเห็นของบุคคลากรภายใน กสอ. เพื่อนำไปวิเคราะห์และจัดทำเป็นข้อเสนอแนวทางในการปรับบทบาทภารกิจของ กสอ. ให้สอดคล้องกับทิศทางการดำเนินงานในอนาคต รวมทั้งยกระดับการบริหารราชการภาครัฐให้มีความยืดหยุ่น คล่องตัว มีบริการที่รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ ภายใต้โครงการพัฒนาส่วนราชการรูปแบบเฉพาะของสำนักงาน ก.พ.ร. ร่วมกับ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ทั้งนี้ เพื่อเป็นหน่วยงานต้นแบบสำหรับส่วนราชการอื่น ๆ ต่อไป ขอบคุณข้อมูลจาก : PR.DIProm (กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม)
16 ก.ย. 2563
กสอ. ระดมบุคลากรภาครัฐ เตรียมพร้อมแผนการปฏิบัติงานปีงบประมาณ 2564 เสริมแกร่งผู้ประกอบการอย่างเข้มข้น
กสอ. ระดมบุคลากรภาครัฐ เตรียมพร้อมแผนการปฏิบัติงานปีงบประมาณ 2564 เสริมแกร่งผู้ประกอบการอย่างเข้มข้น
วันอังคารที่ 15 กันยายน 2563 นายณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ให้เกียรติเป็นประธานเปิดสัมมนาเชิงปฏิบัติการ เรื่อง การจัดทำข้อเสนอโครงการและบูรณาการผลผลิต และงบประมาณให้สอดคล้องกับศักยภาพและความต้องการของหน่วยงาน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 เพื่อให้หน่วยงานทบทวนการจัดทำโครงการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ของหน่วยงานให้มีประสิทธิภาพ และบูรณาการผลผลิต งบประมาณ รวมถึงรูปแบบการดำเนินโครงการที่สอดคล้องกับภารกิจของหน่วยงาน และตอบสนองต่อความต้องการของก่ลุ่มเป้าหมาย ร่วมด้วย นายภาสกร ชัยรัตน์ นายเจตนิพิฐ รอดภัย นายใบน้อย สุวรรณชาตรี คณะผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ณ ห้องประชุม Ballroom โรงแรมอีสติน มักกะสัน ขอบคุณข้อมูลจาก : PR.DIProm (กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม)
15 ก.ย. 2563
Six Sigma ปรับปรุงธุรกิจอย่างสร้างสรรค์ ปั้นกำไรอย่างยั่งยืน
Six Sigma ปรับปรุงธุรกิจอย่างสร้างสรรค์ ปั้นกำไรอย่างยั่งยืน
ปัจจุบัน Six Sigma ได้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย ในการปรับปรุงกระบวนการทั้งในภาคการผลิตและงานบริการ วันนี้ผู้เขียนได้นำ D-M-A-I-C (Define, Measure, Analyze, Improvement, Control) ซึ่งเป็นหนึ่งในแนวทางการแก้ไขปัญหาและปรับปรุงกระบวนการทำงานของ Six Sigma มาแนะนำให้เพื่อน ๆ ได้ลองใช้ดู ซึ่งผู้เขียนเคยนำมาใช้ในการปรับปรุงกระบวนการผลิต เพื่อลด Lead Time ของกระบวนการผลิต ทำให้สามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้สูงขึ้น โดยไม่ต้องเพิ่มจำนวนคนงานและจำนวนเครื่องจักร เมื่อสมัยทำงานในโรงงานอุตสาหกรรม D-M-A-I-C เป็นขั้นตอนของการเรียบเรียงกระบวนการทางความคิด และเป็นแนวทางที่องค์กรส่วนใหญ่สามารถนำไปใช้ในการระบุสาเหตุ ในการลดความสูญเสียจากการดำเนินงาน หรือ อาจเรียกว่า Problem Resolution โดย D-M-A-I-C จะมุ่งเน้นแก้ไขปัญหาหลังจากปัญหาได้เกิดขึ้นแล้ว เพื่อจะปรับปรุงสินค้าหรือบริการให้มีคุณภาพตามกำหนด และเพื่อให้ทุกคนจดจำได้ง่ายขึ้น ลองจำเป็น D-MAI-C (ดี-ไหม-ครับ หรือ ดี-ไหม-คะ) แล้วแต่ที่สะดวกได้เลยค่ะ ผู้เขียนขออธิบายถึงรายละเอียดของแต่ละขั้นตอนให้เพื่อน ๆ ได้มองเห็นภาพได้ง่ายขึ้นนะคะ ไปเรียนรู้กันทีละตัวเลยค่ะ Define คือ ขั้นตอนของการนิยามหรือกำหนดปัญหาให้เข้าใจตรงกัน เลือกโครงการที่จะทำการปรับปรุงหรือออกแบบ เช่น เลือกกระบวนการผลิตที่เป็นกระบวนการคอขวด (Bottleneck Process) หรือ กระบวนการผลิตที่เกิดของเสียสูงที่สุด เพื่อให้โครงการที่เลือกทำนั้นเป็นเรื่องสำคัญจริง ๆ ทำแล้วคุ้มค่า ตรงประเด็นไม่เสียเวลา Measure คือ การนำปัญหาที่เรากำหนดแล้ว มาทำให้เป็นตัวเลข หรือสร้างเกณฑ์ชี้วัดสภาพปัญหา เช่น การวัดความสามารถของกระบวนการผลิต การวัดของเสีย การวัดประสิทธิผล ฯลฯ Analyze คือ การวิเคราะห์ข้อมูลที่ทำการวัดมาแล้ว เพื่อพิสูจน์หาตัวแปรที่สำคัญที่สุดในกระบวนการ (Key process variable) ที่เป็นต้นตอสาเหตุของปัญหาที่นิยามไว้ เช่น การผลิตสินค้าไม่เป็นไปตามข้อกำหนดของลูกค้าในขั้นตอนนนี้ถือว่าสำคัญมาก เพราะถ้ากำหนดตัวแปรที่สำคัญผิดก็ไม่สามารถปรับปรุงกระบวนการให้ดีขึ้นได้ Improve คือ การปรับปรุงกระบวนการทำงานให้ดีขึ้น หลังจากที่เราสามารถหาตัวแปรที่มีผล หรือนัยสำคัญในกระบวนการทำงานได้แล้ว เราก็ลงมือปรับปรุงกันได้เลย Control คือ การควบคุมกระบวนการทำงานให้อยู่ภายใต้การทำงานอย่างมีมาตรฐานอย่างสม่ำเสมอ โดยเราสามารถควบคุมการกระบวนการทำงานอย่างมีมาตรฐาน ด้วยการออกเอกสารมาตรฐาน (Standard Document) หรือ Statistical process control (SPC) ในการควบคุมคุณภาพกระบวนการผลิต Six Sigma เป็นหนึ่งในหลายร้อยวิธีที่อาจจะคลิกกับปัญหาที่ธุรกิจของท่านกำลังประสบอยู่จนสามารถคลายปมที่ยุ่งเหยิงพลิกวิกฤติกลับไปสู่กำไรที่เพิ่มขึ้นพอกพูนได้ อ่านมาถึงบรรทัดนี้คงรู้แล้วใช่ไหมคะว่าวิธีการนี้ไม่ยากอย่างที่คิด ลองนำไปปรับใช้กันดูแล้วจะรู้ว่าทุกปัญหามีทางออกเสมอถ้าเราใช้กุญแจถูกดอกค่ะ แหล่งที่มา 1. https://www.dropbox.com/th_TH/business/resources/dmaic 2. https://www.solutioncenterminitab.com/blog/lean-six-sigma-terms-dmaic-dmadv-dfss-2/ บทความนี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนบุคคลเท่านั้น
10 ก.ย. 2563
PMQA อิหยังวะ!
PMQA อิหยังวะ!
PMQA ย่อมาจาก Public sector Management Quality Award หรือแปลเป็นภาษาไทยว่ารางวัลคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ ซึ่งเป็นกรอบการประเมินองค์การด้วยตนเอง เพื่อยกระดับคุณภาพการบริหารจัดการโดยมุ่งเน้นในการปรับปรุงองค์การอย่างรอบด้านและต่อเนื่อง ใครเคยสงสัยบ้างครับ ว่าอะไรคือ การบริหารจัดการที่ดี หรือ ระบบราชการที่ดี ความคิดของทุกคนคงผุดขึ้นมาจนล้นสมอง ถ้าให้ยกมือก็คงมือพันกันระวิงเลยใช่ไหมครับ งั้นมาลองไล่ความสำคัญไปพร้อม ๆ กันดีกว่า เริ่มจากการมองสภาพแวดล้อม ในปัจจุบันที่เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้เกิดการปรับปรุงหรือปฏิรูป จากแนวคิดของการพัฒนาหน่วยงานภาครัฐสู่ระบบราชการ 4.0 เพื่อให้รองรับต่อการเปลี่ยนแปลงสู่การเป็นประเทศไทย 4.0 ตามนโยบายของรัฐบาล ดังนั้นการพัฒนาสู่ระบบราชการ 4.0 จึงมีเป้าหมายหลักเพื่อให้ภาครัฐสามารถเป็นที่พึ่ง เชื่อถือและไว้วางใจ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของประชาชน สำนักงาน ก.พ.ร. ได้กำหนดกลไกการขับเคลื่อนการนำเครื่องมือประเมินสถานการณ์เป็นระบบราชการ 4.0 (PMQA 4.0) มาใช้ในการยกระดับการบริหารจัดการองค์การไปสู่ระบบราชการ 4.0 เพื่อให้หน่วยงานภาครัฐสามารถนำเครื่องมือไปวิเคราะห์องค์การด้วยตนเองเพื่อหาโอกาสในการปรับปรุงองค์การ และนำผลการประเมินไปใช้เป็นข้อมูลประกอบการจัดทำแผนพัฒนาองค์การ นำไปสู่การยกระดับองค์การให้เป็นระบบราชการ 4.0 โดยมุ่งเน้นให้ปรับปรุงองค์การอย่างรอบด้านและอย่างต่อเนื่องครอบคลุมทั้ง 7 หมวด ซึ่งถ้าเจาะลึก ๆ ระดับการพัฒนาก็มี 3 ระดับ ได้แก่ Basic Advance และ Significance ลองนึกภาพเล่น ๆ ก็จะเปรียบเหมือนคนที่ชอบเล่นเกม ขั้นแรกก็เปรียบเหมือนคนที่เล่นเกมเป็น ขั้นต่อไปก็ยกระดับหน่อยเปรียบเหมือนคนเล่นเกมที่ติดลำดับ ขั้นสุดก็อยู่ในเลเวลที่เล่นเกมจนได้รางวัล ก็จะประมาณนั้นครับ เวลาเราขายของยังหวังผลกำไร นับประสาอะไรกับการทำงานเราก็ต้องมีเรือธงใช่ไหมครับ ซึ่งเป้าหมายของการพัฒนาสู่ระบบราชการ 4.0 ก็จะดำเนินการโดยยึดหลักธรรมาภิบาล เพื่อประโยชน์สุขของประชาชน (Better Governance, Happier Citizens) สำหรับผู้ที่ไม่ได้มีหน้าที่ต้องขลุกหรือคลุกวงในกับการประเมินองค์การ หรือ PMQA ทุกวัน ผมว่าแค่รู้ไว้ว่าหลักธรรมาภิบาล เพื่อประโยชน์สุขของประชาชน มีอะไรบ้าง แล้วมันดีอย่างไร? ก็เท่มากแล้วครับสำหรับคนในเครื่องแบบสีกากี เริ่มเลยนะครับ Go Go Go 1. ระบบราชการที่เปิดกว้างและเชื่อมโยงถึงกัน (Open & Connected Government) เป็นการทำงานที่เปิดเผยโปร่งใสในการทำงาน โดยบุคคลภายนอกสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารของทางราชการหรือมีการแบ่งปันข้อมูลซึ่งกันและกันและสามารถเข้ามาตรวจสอบการทำงานได้ ตลอดจนเปิดกว้างให้กลไกหรือภาคส่วนอื่น ๆ ได้เข้ามามีส่วนร่วม และโอนถ่ายภารกิจที่ภาครัฐไม่ควรดำเนินการเองออกไปให้แก่ภาคส่วนอื่น ๆ เป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการแทน โดยการจัดระเบียบความสัมพันธ์ในเชิงโครงสร้างให้สอดรับกับการทำงานในแนวระนาบ ในลักษณะของเครือข่าย มากกว่าตามสายการบังคับบัญชาในแนวดิ่ง ขณะเดียวกันก็ยังต้องเชื่อมโยงการทำงานภายในภาครัฐด้วยกันเองให้มีเอกภาพและสอดรับประสานกันไม่ว่าจะเป็นการบริหารราชการส่วนกลาง ส่วนภูมิภาคและส่วนท้องถิ่น 2. ระบบราชการที่ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง (Citizen-Centric Government) ต้องทำงานในเชิงรุก และมองไปข้างหน้า โดยตั้งคำถามกับตนเองเสมอว่าประชาชนจะได้อะไร มุ่งเน้นแก้ไข ปัญหาความต้องการและตอบสนองความต้องการของประชาชน โดยไม่ต้องรอให้ประชาชนเข้ามาติดต่อขอรับบริการหรือร้องขอความช่วยเหลือจากทางราชการ (Proactive Public Services) รวมทั้งใช้ประโยชน์จากข้อมูลของทางราชการ (Big Government Data) และระบบดิจิทัลสมัยใหม่ในการจัดบริการสาธารณะที่ตรงกับความต้องการของประชาชน (Personalized หรือ Tailored Services) พร้อมทั้งอำนวยความสะดวกโดยมีการเชื่อมโยงกันเองของหน่วยงานราชการเพื่อให้บริการต่าง ๆ สามารถเสร็จสิ้นในจุดเดียว ประชาชนสามารถใช้บริการของทางราชการได้ตลอดเวลาตามความต้องการ และสามารถติดต่อได้หลายช่องทางผสมผสานกัน ทั้งการติดต่อด้วยตนเอง ติดต่อผ่านอินเตอร์เน็ต เว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย หรือแอปพลิเคชันทางโทรศัพท์มือถือ 3. หน่วยงานของรัฐมีขีดสมรรถนะสูงและทันสมัย (Smart & High Performance Government) คือกระบวนการทำงานที่ต้องทำงานอย่างเตรียมการณ์ไว้ล่วงหน้า มีการวิเคราะห์ความเสี่ยงสร้างนวัตกรรมหรือความคิดริเริ่มและประยุกต์องค์ความรู้ในแบบสหสาขาวิชาเข้ามาใช้ในการตอบโต้กับโลกแห่งการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน เพื่อสร้างคุณค่า มีความยืดหยุ่นและความสามารถในการตอบสนองกับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างทันเวลา ตลอดจนเป็นองค์การที่มีขีดสมรรถนะสูงและปรับตัวเข้าสู่สภาพความเป็นสำนักงานสมัยใหม่ รวมทั้งทำให้ข้าราชการมีความผูกพันต่อการปฏิบัติราชการและปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเหมาะสมกับบทบาทของตน (ในฐานะเป็นผู้สนับสนุนการทำงานของรัฐบาล ในฐานะเป็นผู้กำกับดูแล ในฐานะเป็นผู้ปฏิบัติ) ใช่แล้วครับ การจะพัฒนาไปสู่ระบบราชการ 4.0 จะสำเร็จได้ก็ต้องอาศัยความร่วมมือของทุกภาคส่วนในสังคม ในการทำงานร่วมกัน มองเป้าหมายร่วมกัน มิใช่เฉพาะภาครัฐเพียงส่วนเดียว รวมถึงการคิดค้นและแสวงหาวิธีการหรือแนวทาง (Solutions) ใหม่ ๆ หรือการสร้างนวัตกรรมนั่นเองครับที่จะมีช่วยให้สามารถตอบโจทย์ความท้าทายของประเทศหรือตอบสนองปัญหาความต้องการของประชาชนได้เป็นอย่างดี และที่ขาดไม่ได้ก็คือการปรับตัวเข้าสู่การเป็นดิจิทัลของข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐต้องได้รับการปรับเปลี่ยนกระบวนการทางความคิด (Mindset) ให้ตนเองมีความเป็นผู้ประกอบการสาธารณะ (Public Entrepreneurship) เพิ่มทักษะให้มีสมรรถนะที่จำเป็นและเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของตน อันจะช่วยทำให้สามารถแสดงบทบาทของการเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง (Change Leader) เพื่อสร้างคุณค่า (Public Value) และประโยชน์สุขให้แก่ประชาชน ดังนั้นนะครับ หากผู้อ่านเป็นผู้สนับสนุนการทำงานของรัฐบาล หรือเป็นผู้กำกับดูแล หรือจะเป็นผู้ปฏิบัติโดยตรงเลยก็ดี ก็อย่าลืมยึดหลักปัจจัยสำคัญที่เป็นเหมือนกุญแจสำคัญเหล่านี้ที่จะทำให้หน่วยงานของท่านบรรลุเป้าหมาย และมีผลการประเมินในระดับที่คาดหวังไว้ได้อย่างง่ายดายครับ พอหอมปากหอมคอ ถ้าใครยังเอ๊ะอ๊ะ สงสัยในบางประเด็นผมแนบลิ้งก์เล่ม PMQA 4.0 ไว้ด้านล่างนะครับ ผมพร้อม คุณพร้อม ประเทศไทยพร้อม ระบบราชการ 4.0 ก็ไม่ใช่เพียงสิ่งที่เราวาดฝันอีกต่อไปครับ ที่มา คู่มือการประเมินสถานะของหน่วยงานภาครัฐในการเป็นระบบราชการ 4.0 : https://www.opdc.go.th/content/Mjc3Mg ความหมายเกี่ยวกับ PMQA : http://bps.moph.go.th/new_bps/sites/default/files/pmqa.pdf
31 ส.ค 2563
กง. ลงพื้นที่ติดตามประเมินผลบุกถึงถิ่นกล้วยตาก จ.พิษณุโลก
กง. ลงพื้นที่ติดตามประเมินผลบุกถึงถิ่นกล้วยตาก จ.พิษณุโลก
เมื่อวันพุธที่ 26 สิงหาคม 2563 กง.กสอ. ลงพื้นที่เพื่อติดตามและประเมินผลการส่งเสริมกลุ่มเกษตรกรบ้านตะโม่สร้างสรรค์ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ผู้ผลิตกล้วยตาก ซึ่งเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาศักยภาพและยกระดับผลิตภัณฑ์ หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ ของ กสอ. โดยได้รับการส่งเสริมจาก ศภ. 2 กสอ. ในด้านการพัฒนาต้นแบบบรรจุภัณฑ์ จำนวน 8,000 ชิ้น สำหรับกล้วยโรล (กล้วยอบม้วนสอดไส้เม็ดมะม่วงหิมพานต์เและช็อกโกแลต) และกล้วยตากเคลือบช็อกโกแลต โดยตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา มีการใช้ต้นแบบบรรจุภัณฑ์ไปแล้ว 4,000 ชิ้น โดยในช่วงวิกฤตการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา ได้มีการปรับตัวในการขายตลาดออนไลน์มากขึ้น ทำให้มียอดขายออนไลน์เพิ่มขึ้น สำหรับความท้าทายของกลุ่ม คือ การขาดแคลนกล้วยในหน้าแล้ง ซึ่งในอนาคต นอกจากกลุ่มจะมีแนวคิดในการเก็บรักษากล้วยในห้องเย็นช่วงวัตถุดิบล้นตลาด เพื่อป้องกันปัญหากล้วยขาดแคลนช่วงหน้าแล้งแล้ว กลุ่มยังต้องการให้ส่งเสริมด้านการพัฒนากระบวนการชุบช็อกโกแลตและการเพิ่มผลิตภาพกระบวนการบรรจุ โดยกลุ่มเข้าร่วมกิจกรรมของ กสอ. อย่างต่อเนื่อง มีความพึงพอใจต่อกิจกรรม กสอ. อย่างมาก และชื่นชมเจ้าหน้าที่ ศภ. 2 กสอ. ที่สนับสนุนกลุ่มมาโดยตลอดอีกด้วย
27 ส.ค 2563